กุมารทองเทวดาน้อย หลวงพ่อช้าง วัดหนองยายเม้า
วิชาการสร้างกุมารทองของหลวงพ่อช้างเป็นวิชาเทพนิมิต หลวงพ่อช้างท่านได้เล่าถึงที่มาที่ไปของวิชากุมารทองเทพนิมิตว่า...ขณะที่ท่านได้ออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรตามป่าตามเขาหรือในถ้ำ ที่ไหนมีอาถรรพณ์เฮี้ยน ๆ แรง ๆ ดูเหมือนหลวงพ่อช้างจะโปรดปรานเป็นที่สุด เมื่อท่านทราบท่านจะไปปักกลดพักอาศัยปฏิบัติเจริญธรรมภาวนาทันที และที่ปักกลดบ่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นป่าช้า หลวงพ่อช้างท่านได้เดินธุดงค์ผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งชายแดนประเทศกัมพูชา มีเสียงร่ำลือจากชาวบ้านว่า ที่ป่าท้ายหมู่บ้านมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ชาวบ้านมักจะเห็นเด็ก 4-5 คนวิ่งเล่นกันที่โคนต้นไม้เป็นประจำ หรือบางครั้งชาวบ้านเข้าไปหาของในป่า เดินผ่านต้นไม้ดังกล่าวบางครั้งจะได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ แต่ไม่เห็นตัวตนก็หลายครั้ง เป็นที่เกรงกลัวของชาวบ้านเป็นอันมาก
ชาวบ้านจึงนิมนต์หลวงพ่อช้างไปสงเคราะห์ปัดเป่าให้ ซึ่งท่านได้รับนิมนต์โดยไปปักกลดบำเพ็ญใต้ต้นไม้แห่งนี้ ขณะที่หลวงพ่อช้างบำเพ็ญภาวนาอยู่นั้น ปรากฎเห็นเด็กร่างขาวจ้ำม่ำได้เดินผ่านไปผ่านมาหน้ากลดของท่าน รัศมีกายผ่องใสมาก เกินกว่าจะเป็นสัมภเวสีหรือวิญญาณแต่อย่างใด!! มีอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์อย่างเพียบพร้อม น่าจะเป็นเทวดาหรือโอปปาติกะชั้นสูงเป็นแน่แท้ที่จุติเกิดผุดขึ้นสิงสถิตย์ในต้นไม้แห่งนี้ หลวงพ่อช้างท่านจึงได้เสี่ยงบารมีอธิษฐานจิตถึงกุมารว่า "ถ้าจะไปอยู่กันร่วมสร้างบารมีจรรโลงพุทธศาสนาด้วยกัน กิ่งไม้ส่วนใดที่กุมารสิงสถิตย์อยู่ขอให้นำมาถวายหลวงพ่อ!!"
รุ่งเช้าขณะแสงพระอาทิตย์กำลังจับขอบฟ้าได้เกิดลมกระโชกอย่างแรง ลมพัดจนกิ่งไม้ท่อนหนึ่งตกลงมาหน้ากลดของหลวงพ่อช้าง เมื่อท่านนำท่อนไม้ดังกล่าวมาพิจารณาดูตามกิ่งไม้จะมีปุ่ม ๆ อยู่หลายที่ด้วยกัน ทราบต่อมาว่าหลวงพ่อช้างท่านเรียก "คตกุมาร" เวลาที่ท่านจะสร้างอะไรที่สืบเนื่องเกี่ยวกับกุมารท่านจะนำผง "คตกุมาร" ผสมไปด้วยทุกครั้ง มีประสบการณ์และเป็นที่แสวงหาของศิษย์เป็นอย่างมาก
ปัจจุบันหลวงพ่อช้างท่านได้นำ "ผงคตกุมาร" ทั้งหมดมาผสมสร้างกุมารทองดูดรก โดยท่านได้ตั้งชื่อเองว่า "เทวดาน้อย" ที่ด้านล่างอุดผง มีวิธีบูชาให้เสร็จสรรพน่าบูชามากครับ
ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูล, ราคา และของสมนาคุณ
โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการพิมพ์
ภาพที่ใช้ประกอบในเว็บไซด์นี้อาจปรับแสงเพื่อความสวยงาม ของจริงอาจแตกต่างกันบ้าง